เกษตรตาก ร่วมให้การต้อนรับพลอากาศเอก ชลิตพุกผาสุก องคมนตรี ประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวงตรวจติดตามการดำเนินงานโรงผลิตสารฝนหลวง (น้ำแข็งแห้ง) ตามพระราชดำริองคมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) ตามโครงการพระราชดำริ

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. นายวิษณุ คำพินิจ เกษตรจังหวัดตาก ร่วมให้การต้อนรับ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) พร้อมติดตั้ง ตามโครงการพระราชดำริ และการดำเนินการปรับปรุงสนามบินตาก ณ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จ.ตาก และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยมี นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวให้การต้อนรับ

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีภารกิจในการปฏิบัติการฝนหลวงดัดแปรสภาพอากาศ โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการภารกิจในการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง การเติมน้ำต้นทุนให้กับพื้นที่เกษตรกรรม เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวมถึงการบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm 2.5 ทั่วประเทศ ซึ่งจากเดิมจะได้รับการสนับสนุนน้ำแข็งแห้งจากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) แต่ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจ จึงได้มีการของบประมาณในการจัดสร้างโรงผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) เพื่อประจำยังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 8 แห่งทั่วประเทศ จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานโรงผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) ทั้ง 8 แห่ง เข้าเป็นโครงการในพระราชดำริ และได้เริ่มก่อสร้างโรงผลิตสารฝนหลวง (น้ำแข็งแห้ง) แห่งแรก ณ ศูนย์ปฏิบัติการภาคใต้ตอนบน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

สำหรับ โรงผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) สามารถผลิตน้ำแข็งต่อชุดได้ 1 ตันต่อชั่วโมง และผลิตสูงสุดได้ 6 ตันต่อวัน ซึ่งขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมติดตั้งแล้ว จำนวน 5 แห่ง คือ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดขอนแก่น จังหวัดบุรีรัมย์และ จังหวัดเพชรบุรี

ด้าน นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า จากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในหลายปีที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักด้านการดัดแปรสภาพอากาศ จึงได้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคนิค
การดัดแปรสภาพอากาศเพื่อดูดซับฝุ่นละออง และการลดอุณภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน ทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนด้วยการโปรยน้ำ น้ำเย็น และน้ำแข็งแห้ง ซึ่งเป็นเทคนิคการดัดแปรสภาพอากาศที่ได้ทำการศึกษาและทดลองใช้จริงในการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm 2.5 ในปีที่ผ่าน ๆ มา และพบว่า การใช้น้ำแข็งแห้ง ทำให้การระบายฝุ่นละอองใต้ชั้นอุณภูมิผกผันสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีประสิทธิภาพในการเปิดชั้นอากาศมากกว่าการใช้น้ำและน้ำเย็น
ทั้งนี้ โรงผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) ที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 5 แห่งมีความพร้อมที่จะใช้ในการปฏิบัติภารกิจการปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm 2.5 ประจำปี 2569 โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการวางแผนตั้งหน่วยปฏิบัติการดัดแปร
สภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ประจำปี 2569 ให้กับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดระยอง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 ถึงเดือนมีนาคม 2569 พื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดตาก และหน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ -พฤษภคาคม 2569 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 1 หน่วยฯ คือ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม 2569

ภาพ/ข่าว : สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.ตาก

Scroll to Top